การดูดเหนียง มีกี่วิธี ? ดูดไขมันเหนียง สามารถทำได้หลายวิธี โดยจะเรียกตามเครื่องดูดไขมัน เช่น บอดีไทท์ (BodyTite),เวเซอร์ (Vaser), บอดี้เจ็ท (BodyJet) เป็นต้น ซึ่งแต่ละเครื่องนั้นจะมีคุณสมบัติ ข้อดี-ข้อเสีย ที่ต่างกัน หากต้องการดูดไขมันเหนียง อาจจะต้องหาข้อมูลของแต่ละเครื่อง รวมถึงสอบถามทางคลินิกนั้นๆ ก่อนว่าใช้เครื่องดูดไขมันแบบใด? ตรงตามที่เราต้องการหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ หลังการดูดไขมัน และได้ผลลัพธ์ตามที่คิดไว้
“การดูดไขมันเหนียงด้วยเทคนิค Necktite + PAL
เนื่องจากเหนียงหรือไขมันใต้คางนั้นมีปริมาณไม่มาก จึงไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือดูดไขมันที่มีขนาดใหญ่ จึงเลือกใช้เครื่องดูดไขมัน BodyTite ซึ่งมีอุปกรณ์พิเศษที่ทำออกมาเพื่อดูดไขมันเฉพาะส่วน เรียกว่า Necktite (หรือ FaceTite) เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับการดูดไขมันบริเวณเล็กแทน อย่างเช่น การดูดไขมันใต้คาง ลดเหนียง ร่วมกับการใช้หัวดูดแคนนูล่า (Canular) ของเครื่องดูดไขมัน PAL ซึ่งเป็นระบบสั่นในการดูดไขมันใต้เหนียงออกมา ให้ได้ปริมาณตามที่ต้องการ
ดูดไขมันเหนียงด้วยเทคนิค NeckTite คืออะไร?
ดูดไขมันเหนียง เทคนิคใหม่ปี 2023 ด้วยหัวดูดไขมัน Necktite จะมีขนาดเล็กและสั้นกว่า Bodytite (ที่ใช้สำหรับลำตัว) เหมาะสำหรับดูดไขมันเหนียง หรือบริเวณใต้คาง เพิ่มกรอบหน้า โดยหลักการทำงานของ Necktite จะใช้คลื่นความถี่ Radio frequency wave ในการสลายไขมันพร้อมกับการกระชับผิวใต้คาง อีกทั้งการมีหัวดูดแบบ Bipolar สอดใต้ผิวจะไม่ทำให้ผิวด้านนอกไหม้ แผลเป็นหลังดูดไขมันเหนียงจึงมีขนาดเล็กมาก
ดูดไขมันเหนียง ด้วยเทคนิค NeckTite แบบใช้ยาชาเฉพาะจุด ปลอดภัย ช้ำน้อย ไม่เจ็บ และแผลมีขนาดเล็กมาก
ข้อดีของการใช้ Necktite ร่วมกับ PAL ดูดไขมันเหนียง
1. อุปกรณ์ Necktite ที่ใช้ในการดูดไขมันเหนียง กรอบหน้าคมชัด เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่น RF – Radio frequency wave ที่ช่วยสลายไขมันใต้คางไปพร้อมกับการกระชับผิว ได้มากที่สุดถึง 12% (ถ้าเทียบกับเครื่องดูดไขมันอื่นๆ)
2. เครื่อง BodyTite มีหน้าจอแสดงอุณหภูมิ และมีอุปกรณ์วัดอุณหภูมิจึง ป้องกันการเกิดผิวไหม้ ผิวบุ๋ม ผิวไม่เรียบ ซึ่งเกิดจากการใช้ความร้อนจากเครื่องหรืออุปกรณ์ที่มากเกินไปได้
3. หัวดูดแคนนูล่าของเครื่อง PAL มีหลายขนาดให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม แพทย์ผู้ชำนาญก็จะเลือกใช้หัวดูดขนาดเล็ก มีความยาวเหมาะสม ข้อดีคือแผลมีขนาดเล็ก ดูดไขมันออกได้ในปริมาณที่พอดี (บางที่มีหัวดูดแบบเดียวเพื่อใช้ดูดไขมันทั้งตัว ไม่มีเลือกใช้เฉพาะส่วน ทำให้บางครั้งอาจเกิดข้อผิดพลาดหลังการดูดไขมัน เช่น ดูดไขมันออกมากจนเกินไป ทำให้ผิวบุ๋ม เป็นริ้วคลื่นได้)
เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม :
เครื่องดูดไขมัน BodyTite เป็นเทคโนโลยีเดียวกับเครื่องเทอร์มาจ (Thermage) ที่ใช้คลื่น Radio frequency wave ในการยกกระชับผิว แต่ BodyTite จะมีพลังงานมากกว่า และเป็นหัว bipolar ที่สอดใต้ผิวจึงไม่ต้องกลัวผิวด้านนอกไหม้
ขั้นตอนการดูดไขมันเหนียง
1. ให้ยาชาเฉพาะจุดที่ทำการดูดไขมันเหนียง ด้วยเทคนิค Tumescent เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดระหว่างการให้ยาชาและดูดไขมัน อีกทั้งยาชาออกฤทธินานซึ่งคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ หรือเจ็บในระดับที่ทนได้
2. แพทย์ใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า Necktite ของเครื่อง BodyTite สลายไขมันไปพร้อมๆ กับการกระชับผิว
3. หลังจากนั้นจะใช้เครื่องระบบสั่น MicroAire PAL โดยเลือกใช้หัวดูดแคนนูล่าขนาดเล็ก ดูดไขมันส่วนเกินบริเวณคางออกไป โดยดูดไขมันรอบกรอบหน้า (หลังดูดไขมันเหนียงแล้วจะทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น)
4. แพทย์จะทำการเย็บแผล แปะแผ่นซึมซับ และใส่ชุดระชับที่ออกแบบมาสำหรับการดูดไขมันเหนียง
5. คนไข้สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องนอนพักฟื้น เนื่องจากดูดไขมันเหนียงเป็นการฉีดยาชาเฉพาะจุด ไม่เป็นอันตราย